วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

เนติวิทย์ คนชอบเขาต้องดู คนชังเขายิ่งต้องดู - The Standard Daily วันที่ 14 มี.ค.61



คนชอบเขาต้องดู คนชังเขายิ่งต้องดู! กับการตอบทุกคำถามสดๆ ครั้งแรกของเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล บุคคลที่สร้างปรากฏการณ์ให้เป็นที่ถกเถียงมากที่สุดในสังคมไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา
.
พร้อมด้วยประเด็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของนักฟิสิกส์คนสำคัญที่สุดแห่งยุค สตีเฟน ฮอว์กิง
.
ลุ้นรับนิตยสาร THE STANDARD ฉบับเป๊ก-ผลิตโชค เพียงแชร์และคอมเมนต์ว่า คุณอยากถามอะไรเนติวิทย์ พร้อม #TheStandardMagazine
.
ใน THE STANDARD Daily ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2561 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook Live และ Youtube Live ของ Thestandardth
.

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://thestandard.co/thestandarddai...


มีอะไรอยู่ในหลุมดำของ Hawking


วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560

อารยะจริงๆ จ้าเนเน่ "สกินเฮด"

อดีต ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโกนหัวประท้วงมหาวิทยาลัยของเขา
บัดนี้ เตรียมมาเทศน์ในงานปาฐกถาและเสวนาในหัวข้อ "เซน กับการตื่นรู้ของหนุ่มสาวยุค 4.0" ในวาระ 72 ปี วันสันติภาพไทย - 100 ปี อาจารย์ป๋วย - 45 ปี ปาจารยสาร ซึ่งจะมีขึ้นในบ่ายวันนี้ ที่ห้องริมน้ำ คณะศิลปศาสตร์ มธ.

วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

สภานิสิตจุฬาฯ ออกแถลงการณ์โต้ไม่รับคำสั่งให้สมาชิกพ้นตำแหน่ง ด้านเนติวิทย์เปิดใจหลังถูกปลด


                  
สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับคำสั่ง 2 ฉบับของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่สั่งตัดคะแนนและสั่งให้สมาชิกสภานิสิตสามัญพ้นจากตำแหน่ง ด้านเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตฯ เผยว่าเสียใจ และกังวลอนาคตอาจถูกสั่งพักการเรียน
แถลงการณ์ของสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุว่า ตามที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งที่ 4929/2560 เรื่องให้สมาชิกสภานิติสามัญพ้นจากตำแหน่ง กรณีที่สมาชิกนิสิตสามัญถูกลงโทษตัดคะแนนความประพฤตินิสิตจำนวน 25 คะแนน ในข้อกล่าวหาที่ว่าสมาชิกสภานิสิตสามัญกลุ่มนี้ได้ประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2560 ตามคำสั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ 4928/2560

วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560

'นอม ชอมสกี้' ส่งจม.ให้กำลังใจ 'เนติวิทย์' - กว่า 100 นักวิชาการขอจุฬาฯ เปิดใจกว้าง


ปมจุฬาฯ ตั้ง กก.สอบสวน หลังเหตุพิธีถวายสัตย์ฯ เนติวิทย์เผย 'นอม ชอมสกี้' ส่งจดหมายให้กำลังใจ ระบุ 25 นี้ 'ตนและเพื่อนสภานิสิต' จะถูกสอบสวนและลงโทษทางวินัย ขณะที่นักวิชาการกว่า 100 คน ชี้พิธีกรรมประดิษฐ์ราว 20 ปี แนะจุฬาฯ เปิดใจให้กว้าง

14 ส.ค. 2560 จากกรณีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งกรรมการสอบสวน เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และประธานสภานิสิตจุฬาฯ พร้อมด้วยเพื่อนสภานิสิตจุฬาฯ อีก 7 คน จากเหตุการณ์พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ และกรณีสถานที่ราชการในการจัดประชุมโดยไม่รับอนุญาต จากการที่ตนทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสวนหลวงสแควร์ นั้น
ล่าสุดวันนี้ (14 ส.ค.60) เนติวิทย์ โพสต์ภาพจดหมายจาก ศาสตราจารย์ นอม ชอมสกี้ (Noam Chomsky) นักภาษาศาสตร์และนักวิชาการจากสหรัฐฯ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยจดหมายดังกล่าวเป็นการให้กำลังใจ รายละเอียดว่า ได้ทราบข่าวอย่างหดหู่เกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างน่ารังเกียจซึ่งคุณ(เนติวิทย์)ตกเป็นเหยื่อ และการคุกคามต่อคุณอย่างรุนแรง จากการที่คุณ ยืดหยัดเพื่อความยุติธรรมและสิทธิขั้นพื้นฐาน ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผู้คนอย่างคุณคือคนที่จะถางทางประเทศไปสู่อนาคตที่สดใสได้ ตนหวังและเชื่อว่า การกระทำอันอยุติธรรมต่อคุณจะสิ้นสุดไปโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะสามารถก้าวดำเนินต่อไปด้วยความพยายามอันน่าเคารพและกล้าหาญของคุณเพื่อนำประเทศให้ก้าวเดินต่อไป
เนติวิทย์ ระบุด้วยว่า วันที่ 25 ส.ค.นี้ ตนและเพื่อนสภานิสิตจุฬาฯ อีก7 คนจะถูกสอบสวนและลงโทษทางวินัยจากทางมหาวิทยาลัย เนื่องจากกรณีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และตนยังโดนข้อหาเพิ่มด้วยคือ การจัดรับฟังปัญหาผู้ค้าสวนหลวง
"ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งเข้ามาอย่างมากมายครับ นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เพราะกำลังใจทำให้ไม่เคยย่อท้อที่จะฝ่าฟันไปให้ได้ ถ้าไม่มีตรงนี้ ประชาธิปไตยเสรีภาพก็ไม่มี เมื่อตอนบ่ายนี่เองก็มีอาจารย์นักวิชาการทั่วประเทศ 128 คนลงนาม ต่อเรื่องนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่าน" เนติวิทย์ โพสต์

วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Chulalongkorn University has become an international embarrassment.


In the past, Thais were proud if they had studied there. Now they should be ashamed.
จดหมายมาแล้ว
เพื่อนๆคนอื่นโดนข้อเดียว ส่วนผมโดนสองข้อกล่าวหา นั่นคือ
1.ใช้สถานที่ราชการในการจัดประชุมโดยไม่รับอนุญาต - เกิดจากการที่ผมทำ Public Hearing รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสวนหลวงสแควร์ที่ห้องสภานิสิต
2. แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยเจตนาเดินออกจากแถวขณะประกอบพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผมรู้สึกดีใจที่ผมได้รับฟังปัญหาของชาวบ้านรอบข้างของจุฬาฯ แม้ผมจะเดือดร้อนแล้วเพราะการทำสิ่งนั้น
คนเดือดร้อนในสังคมมีมาก เรามีอภิสิทธิ์ในสังคมพอสมควรในฐานะนิสิตจุฬาฯ เราต้องรับใช้สังคมมากกว่าคนอื่นๆ ปณิธานของผมคือการรับฟังให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ องค์กรนิสิตต้องรับใช้สังคม
และแสดงจุดยืนเพื่อวัฒนธรรมไทยที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเป็นตามพระบรมราชโองการ

วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สิทธิพร พรหมมินทร์ เล่าเรื่อง ขำ ๆ เกี่ยวกับเขาและเนติวิทย์

วันนี้มีเหตุการณ์ประหลาดๆที่แอบขำมาเล่าให้ฟัง เมื่อตอนบ่ายผมได้ไปรับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งย่านเพลินจิตกับ Netiwit Chotiphatphaisal และมิตรสหายอีก 2 ท่าน

เหตุการณ์ก็ไม่มีอะไรมากแค่ไปรับประทานอาหารและสนทนากันตามปกติท่ามกลางบรรยากาศผู้คนในร้านที่แออัด และทันใดนั้นก็ได้มีเสียง "เพลงชาติไทย" ดังขึ้นมา ผมและเพื่อนๆรวมถึงลูกค้าอีกหลายท่านก็แปลกใจแล้วมีลูกค้าท่านหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "เห้ย 6 โมงเย็นแล้วหรอวะ ?" แต่เมื่อเหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าขณะนั้นเวลา 14.00 น.

จากนั้นก็
ไม่ได้สนใจอะไร ก็นั่งพูดคุยกันต่อจนถึงเวลาเช็คบิลจะออกจากร้านซึ่งเป็นเวลาที่ "เพลงชาติไทย" ได้เปิดวนซ้ำเป็นรอบที่ 4 พวกผมเริ่มรู้สึกประหลาดใจและมองหาแหล่งที่มาของเสียงนั้น แต่เมื่อมองไปทั้งร้านพบว่าทั่วทั้งร้านไม่มีลำโพงหรือเครื่องเล่นเพลงอยู่เลย จนเหลือบไปมองเห็นสุภาพสตรีวัยกลางคนท่านหนึ่งที่โต๊ะริมหน้าต่างมองมาที่โต๊ะของพวกเราแล้วผมก็พบว่าเขาเป็นคนเปิดเพลงชาติไทยจากโทรศัพท์มือถือของเขา

ผมได้แซวคุณ Netiwit Chotiphatphaisal ว่า "สงสัยเขาเปิดเพลงไล่คุณรึเปล่า ?" จากนั้นเมื่อพวกผมกำลังจะออกจากร้าน Netiwit Chotiphatphaisal ก็พูดทิ้งท้ายว่า "จะกลับแล้ว ขอฟังอีกรอบนึงสิ" สุภาพสตรีท่านนั้นก็เปิดเพลงชาติไทยต่อเป็นรอบที่ 5 พร้อมกับร้องตามไปด้วย 5555


CR: 
สิทธิพร พรหมมินทร์ 

We are so proud of you, My dear Nethiwit


Yesterday, I've received a letter from the Office of Student Affair of Chulalongkorn University today. It claims that I've violated Chulalongkorn University regulation on student's discipline. I'm accused of violating two regulations which are :

1 . Using a university's property (the Student Council office) without permission - It refers to that time when I hosted a public hearing in order to listen to Suanluang square's renters' problems and requests.

2. Behaving in an inappropriate manner, intentionally walking out of a freshman initiation ceremony during the ceremony.


However, my other friends who left the ceremony with me, are also accused of violating one regulation which is
1. Behaving in an inappropriate manner, intentionally walking out of a freshman initiation ceremony during the ceremony.
Honestly, I'm still glad I got a chance to listen to people and their problems, even though I'm now in trouble because of what I did.

There are still so many people in our country who need help. I believe that we, as Chula students, are quite privileged compared to the rest of society. Therefore, we have to serve our people and society more than others do.

My resolutions are to listen to people as much as possible and support Thai culture which must conform to human dignity and the command of His Majesty King Chulalongkorn.

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สรุปดราม่าถวายสัตย์จุฬาฯ 'เนติวิทย์' รับไม่ได้หมอบกราบกลางฝน อ.ฉะมีการเตรียมมาป่วน



สวัสดีครับเพื่อนๆ
วันนี้เป็นวันถวายสัตย์ปฏิญญาณตนของนิสิตใหม่ประจำปี 2560
แทนที่จะเกิดความปีติ แต่กลับจัดงานอย่างผิดพลาด
ตอนแรกสุดบอกว่าจะให้พื้นที่สำหรับคนยืนเคารพ
รองอธิการบดีสัญญากับผมก่อนงานว่า ถ้าฝนตกจะให้เด็ก
โค้งคำนับแล้วจบ เพราะเด็กจะเปียก จะเป็นไข้ได้ แต่เป็นว่าให้หมอบกราบถวายบังคมเหมือนเดิม พอฝนเริ่มตกหนักก็ยังแจกแผ่นกันฝนเล็กๆให้เด็ก แล้วก็ไม่พอด้วยหลายๆคนก็ยังต้องตากฝนอีกเพื่อหมอบกราบถวายบังคม ที่ไม่รู้เวล่ำเวลาหรือคิดถึงนิสิตใหม่
ในขณะที่พวกครูอาจารย์มีร่มเตรียมมา
สภานิสิตและอบจ นั้นไม่มีร่มให้ เปียกโชก
ผมทนไม่ได้ ผมกับเพื่อนหลายคน ซึ่งมีหลายเหตุผลด้วยกันจึงเดินออกมา
นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์มาทำร้ายร่างกาย ล็อคคอ กระชากดึงเพื่อนผม ด่าอย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นอาจารย์
------------------------
สำหรับเหตุผลของผมที่ผมต้องเดินออกนอกจากฝนตก รองไม่ทำตามคำสัญญาแล้ว ยังมีเหตุผลอีกดังนี้:
ปีที่แล้วกับปีนี้แตกต่างกัน ปีที่แล้วผมยังเป็นนิสิตเพิ่งเข้าใหม่
แต่ในปีนี้ ผมเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ซึ่งก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมได้มายืนอยู่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ของทั้งสองรัชกาล
เฝ้ามองและยืนนิสิตใหม่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการถวายบังคม
อย่างไรก็ดี สำนึกของการที่เป็นประธานสภานิสิตจุฬาฯ ก็มาพร้อมกับการที่ต้องรักษาเกียรติภูมิ วัฒนธรรมที่ดีงามในสังคมปัญญาชนให้งอกงามต่อไป
ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นก็ได้แสดงออกอย่างชัดเจนจากชื่อพระนามของรัชกาลที่5 ซึ่งได้ถูกอัญเชิญมาเป็นชื่อของมหาวิทยาลัย
ในส่วนตัวของผมแล้ว แม้ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เป็นประธานฯ ก็รู้สึกปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ต่อพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเห็นว่าสยามประเทศจะเจริญงอกงามได้นั้น จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ทันสมัย ไม่แพ้กับชาติตะวันตก ทรงเห็นว่าของเก่าบางอย่างนั้นที่ทำมา บัดนี้สมควรเลิกได้แล้ว มนุษย์ไม่สมควรจะกดขี่กันและกัน กริยาท่าทางนั้นสำคัญ ควรจะให้ไม่เกิดการดูเหลื่อมล้ำขึ้น เหมือนลักษณะสังคมทาสดั้งเดิม ดังทรงพระมหากรุณาธิคุณในการยกเลิกทาสและธรรมเนียมแบบทาสแม้ต่อหน้าพระพักตร์ พระองค์ก็ต้องการให้พวกเราแสดงความเคารพอย่างเป็นมนุษย์เสมอภาค ทรงประกาศพระบรมราชโองการยกเลิกธรรมเนียมหมอบคลานถวายบังคม ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งนับว่าเป็นกฎหมาย และยังไม่มีผู้ใดหาญกล้าพอทีจะยกเลิกพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นนี้
ด้วยความสำนึกในฐานะพลเมืองรุ่นใหม่ ในฐานะนิสิตในมหาวิทยาลัยตามพระนาม และประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไม่อาจปฏิเสธถึงวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระองค์นี้ได้เลย ได้พิจารณาไตร่ตรองดีแล้วและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรน้อมทำตามอย่างยิ่ง
กระนั้นก็ตาม ผมก็เกิดความสับสน เหตุใดมหาวิทยาลัยที่ตั้งตามพระนามและเป็นสังคมปัญญาชนถึงสร้างธรรมเนียมขึ้นมาใหม่ให้กลับไปกราบไหว้ถวายบังคม ซึ่งธรรมเนียมการถวายบังคมนี้ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นของใหม่ที่มีมาเมื่อยี่สิบปีก่อน
โดยก่อนหน้านี้มีการฟื้นฟูมาบ้างในสมัยรัฐบาลทหาร แต่นั่นก็ทำไปเพราะมีเป้าหมายทางการเมืองมิใชหรือ โดยพวกเขาไม่อ่านตามพระราชประสงค์
พวกเขาอาจจะไม่รู้ว่า เมื่อพระองค์เจ้าหญิงผ่อง พระธิดาของพระองค์ไม่ยอมทำตามพระราชประสงค์ พระองค์ถึงขนาดดึงผมขึ้นมาเลย และไม่รู้เพราะไม่มีเวลาศึกษาเพียงพอว่า นี่เป็นพระบรมราชโองการ และเป็นกฏหมาย
ถ้าหากพระองค์ทรงเห็นพวกเราเข้าในวันนี้ที่มาถวายสัตย์ พระองค์จะทรงรู้สึกเช่นไร
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานประเทศและเป็นหนึ่งในครูกฎหมายชั้นแนวหน้า ศิษย์กรมราชบุรีฯและผู้คอยติดตามสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ได้แสดงทัศนะต่อเรื่องนี้ที่เขาเห็นการรื้อฟื้นธรรมเนียมที่ไม่ทำตามพระราชประสงค์ว่า
"พระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ได้ปฏิบัติตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๕ โดยเฉพาะกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระอาจารย์กฎหมายสยาม ได้ทรงสั่งสอนตามพระราชประสงค์ ของพระราชบิดา...นิสิตนักศึกษานักเรียนก็ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมนั้น ซึ่งท่านย่อมทราบแล้ว คำพิพากษาฎีกาบางฉบับก็มี ผู้พิพากษาบางนายได้ตัดสินคดีโดยอาศัยประเพณีเก่าเป็นข้ออ้าง ลงโทษผู้ต้องหา
" ผมจึงคิดว่าถ้ารัชกาลที่ ๕ มีญาณวิถี และโดยเฉพาะกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เห็นการฟื้นขนบธรรมเนียมประเพณีทาสอันเป็นการขัดพระราชประสงค์และขัดต่อเจตนารมณ์ทางกฎหมายแล้ว พระองค์จะทรงมีความรู้สึกอย่างไร "
สังคมปัญญาชนด้วยแล้ว อย่างแรกที่มหาวิทยาลัยควรจะทำมิใช่การแจ้งข้อมูลตรงนี้หรือ และเปิดพื้นที่ให้เป็นไปตามพระบรมราชโองการ
นี่คือสาเหตุว่าทำไมปีที่แล้วผมในฐานะนิสิตใหม่จึงต้องโค้งแล้วออกไป เพื่อเป็นการส่งสาส์นว่าถึงเวลากลับมาฟังพระบรมราชโองการ
และในปีนี้ ผมได้ทำการประนีประนอมแล้ว บอกทางรองอธิการบดีรวมถึงทำหนังสือบอกอบจแล้ว แจ้งประสงค์ให้มีพื้นที่คนที่ต้องการทำตามพระบรมราชโองการ แต่ก็หาเป็นผลไม่
มหาวิทยาลัยในพระนามและแหล่งความรู้ไม่มองในมิติอื่นๆเลยนอกจากทำตามคำสั่งของคนซึ่งอาจจะไม่ทราบถึงพระราชประสงค์เมื่อ 20 ปีก่อน
และยังบีบบังคับให้คนที่ต้องการแสดงความภักดีต้องมีสีผมในลักษณะเดียวกัน ยึดข้อมือกำไรต่างๆ ทั้งที่นี่คือการถวายความคำนับต่อพระผู้ทรงสร้างความทันสมัยและต้องการให้มนุษย์เท่ากัน กลับพยายามสร้างความศักดิ์สิทธิ์ อันไม่ใช่ลักษณะของสังคมแห่งปัญญาเลย
ในฐานะประธานสภานิสิตที่ได้รับเกียรติให้มางานนี้ ผมจึงต้องแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมอีกครั้งหนึ่ง
ทำในสิ่งที่เป็นพระราชปณิธานต่อหน้าพระองค์ แม้คนอื่นๆจะลืมเลือนความสำคัญของสิ่งที่พระองค์ทำนี้ไปแล้วและเดินออกไป

=============================================================================
Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chulalongkorn University
หวิดโดนยึดกล้องที่จุฬาฯ
ระหว่างผู้สื่อข่าวถ่ายคลิปงานพิธีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่จุฬาฯ เกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย บริเวณแถวของสภานิสิต จากนั้นมีสตรีท่านหนึ่งพยายามจะแย่งกล้องผู้สื่อข่าว ในจุดที่อนุญาตให้ให้สื่อมวลชนยืนอยู่ โดยผู้ถ่ายคลิปยืนอยู่ใกล้ทีมเนชั่นทีวีซึ่งเป็นเพื่อนสื่อมวลชนต่างสำนักแต่ไปทำข่าวบริเวณงานเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นิสิตที่ถูกล็อคตัวในคลิป คือ รองประธานสภานิสิตคนที่ 1
คลิกชม วิดีโอของเธอที่นี่

****************************