"เนติวิทย์" โจมตีวัฒนธรรมการหมอบ คลาน ถวายบังคม ว่าเป็นซากเดนวัฒนธรรม เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน พร้อมบอกอีกว่าการเซ่นไหว้รูป ร.5 ท่านเป็นเทวดาคงไม่มาเกลือกกลั้วกับของเซ่นที่ไม่มีรสนิยมเช่นนี้
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ได้มีการยกประเด็นต่างๆ ในสังคมไทยขึ้นมาวิจารณ์ซึ่งเป็นแนวขวางโลกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง พุทธศาสนาในเรื่องเรียนเป็นเรื่องไร้สาระ การตัดผมเกรียนของนักเรียน การยกเลิกการเข้าแถวเคารพธงชาติ และอื่นๆอีกมาก วันนี้ ( 14 ส.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเฟชบุค Netiwit Ntw ได้มีการโพสต์ข้อความโจมตีวัฒนธรรมไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ได้กล่าวถึงพีธีหมอบคลาน ถวายบังคม พึ่งพาอำนาจสิ่งศักดิ์ ชี้เป็นเรื่องไร้สาระ เป็นซากเดนวัฒนธรรม เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน และยังกล่าวถึงเรื่องการเซ่นไหว้รูปพร้อมเครื่องเซ่น เสด็จพ่อร.5 ว่า ท่านเป็นเทว พระพุทธเจ้าหลวง แล้วจะมาเกลือกกลั้วกับของเซ่นที่ไม่มีรัสยมได้อย่างไร
ผมเคยผ่านไปสถานศึกษาบางแห่งซึ่งบอกว่าตนเป็นโรงเรียนชั้นสูงจริงๆ ก็ดัดจริตทั้งนั้นแหละเห็นมีพิธีหมอบคลาน ถวายบังคม ซึ่งในมหาวิทยาลัยก็มีอยู่หลายแห่ง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมาก ที่พวกเราเรียนหนังสือมาตั้งมากมาย แต่ไม่สามารถที่จะยืนตัวตรงได้ไม่เป็นตัวของตนเองได้ และพึ่งพาอำนาจศักดิ์สิทธิ์นอกเหนือตัวเรา
ซึ่งเป็นอิฐเป็นปูนไม่มีแก่นสาร และพิธีกรรมเหล่านี้ ในหลวงรัชกาลที่5 ก็ให้ยกเลิกไปหมดแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ซากเดนวัฒนธรรมเหมือน สัตว์เลื้อยคลานก็หาจะสิ้นสุดไปไม่ ภายหลังก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา และโรงเรียนที่ผมรู้จักดีมานานผมก็สงสัยว่าทำไมต้องมีการไหว้รูปเคารพ พร้อมเครื่องเซ่นเสด็จพ่อร.5 ถ้าท่านเป็นเทวดาหรือเป็นตั้งพระพุทธเจ้าหลวงแล้วจะมาเกลือกกลั้วกับของเซ่นที่ไม่มีรสนิยมเช่นนี้ได้อย่างไรสวรรค์ก็อิ่มทิพย์มิใช่ดอกหรือ นี่แสดงว่าคนเซ่นไหว้สิ้นเปล่าไปหรือไม่
ซึ่งเป็นอิฐเป็นปูนไม่มีแก่นสาร และพิธีกรรมเหล่านี้ ในหลวงรัชกาลที่5 ก็ให้ยกเลิกไปหมดแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ซากเดนวัฒนธรรมเหมือน สัตว์เลื้อยคลานก็หาจะสิ้นสุดไปไม่ ภายหลังก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา และโรงเรียนที่ผมรู้จักดีมานานผมก็สงสัยว่าทำไมต้องมีการไหว้รูปเคารพ พร้อมเครื่องเซ่นเสด็จพ่อร.5 ถ้าท่านเป็นเทวดาหรือเป็นตั้งพระพุทธเจ้าหลวงแล้วจะมาเกลือกกลั้วกับของเซ่นที่ไม่มีรสนิยมเช่นนี้ได้อย่างไรสวรรค์ก็อิ่มทิพย์มิใช่ดอกหรือ นี่แสดงว่าคนเซ่นไหว้สิ้นเปล่าไปหรือไม่
กระทรวงศึกษาของเราเองก็ยังอุทิศหน้าในเว็บไซต์ให้กับความงมงาย แล้วเราจะหาการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไรนักเรียน ครู ซึ่งยังมีความชอบธรรมพอในการวิจารณ์โรงเรียนได้อย่างเต็มปาก ควรที่จะต้องออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ กับความล้าหลัง รักแบบสร้างภาพแบบตามมาๆอย่างไร้เหตุผล และบางทีก็บังคับให้เรายอมรับและจมปลักกับมันจมแทบโงหัวไม่ขึ้น