วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ภูมิใจแทนคนหนุ่มสาวยุคนี้จริงๆ ค่ะพี่น้องง.. ขอบคุณหนูที่ออกมาสนับสนุนคนแก่ ที่ต่อสู้แบบเดิมๆ จนจะหมดแรงแล้วลูก..

Meet the Youthful Face of Resistance to Thailand's Junta

                              


Every year, on the first day of school, thousands of first-year students file onto a field on the campus of Chulalongkorn, Thailand’s oldest and among its most prestigious universities, in the heart of the sweltering capital Bangkok. In crisp, white uniforms with slim black belts, they kneel in neat rows in front of a bronze effigy of King Rama VI, the school’s founder, and his father, its namesake. With their foreheads touching the ground, inductees pledge to honor the institution and obey the world’s richest royal family, which shares prestige and power in this Southeast Asian kingdom with its chief protector, the army.
Last year, two freshmen didn’t take the oath.

THAILANDThailand Has Sentenced a Man to 35 Years in Prison For Facebook Posts That 'Insult the Monarchy'
Before he started college as a political science major, Netiwit Chotiphatphaisal read in a book that the practice of prostration had been abolished by King Chulalongkorn, who, the story goes, believed that forcing his subjects to kneel at his feet was cruel and humiliating. Puzzled that the tradition had survived despite a royal decree, Netiwit enlisted a friend to join him in a quiet act of protest. The pair raised their hands and stood up among the sea of students prone in the summer sun. Their peers looked around confusedly as they approached the statue, where they bowed their heads for a moment and then walked away. This simple act of defiance was shocking in a country where being just seen as irreverent toward the monarchy is a criminal offense.
“I don’t want [prostration] to be banned, but people need to be informed about what it means,” Netiwit tells TIME on a recent visit to one of the school’s libraries, saying that the act belies a “hidden political agenda.”

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ผมเห็นใจคุณลุงที่ตกเป็นเหยื่อของความเท็จ ของสื่อที่บิดเบือน และชราภาพที่ครอบงำ

Netiwit Ntw

ผมเห็นข่าวที่คุณลุงวสิษฐ เดชกุญจร
เขียนถึงผมแล้ว ผมรู้สึกเสียใจที่คุณลุงซึ่งอ้างว่าเป็นรุ่นแรกของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับการศึกษาจากครูอาจารย์
ซึ่งท่านเหล่านั้นน่าเคารพ มีวุฒิภาวะและมีความเมตตาธรรม สอนให้ลูกศิษย์มีวิจารณญาณ ไม่ตัดสินอะไรไปเกินด่วน
ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย พระองค์ท่านเองก็มีจุดประสงค์ให้นิสิตที่เรียนมีคุณภาพ แต่คุณลุงรุ่นแรกกลับเขียนอย่างขาดวุฒิภาวะ อ่านหนังสือไม่รอบคอบ เชื่อความเท็จ ใส่ความผมโจมตีผมอย่างผิดๆ เรื่องผมไปกราบคุณหญิงสุดารัตน์ ทั้งที่
คนที่กราบในภาพก็ดี และคุณหญิงสุดารัตน์ได้ชี้แจงไปแล้ว และจะฟ้องร้องคนที่กล่าวเท็จใส่พวกเขาด้วย คุณลุงไม่ตามข่าวเชคข่าวบ้างหรือ
ถ้าคุณลุงมีเมตตากับผมไม่ได้ ผมจะเป็นตัวอย่างให้ท่านผมถูกคุณลุงรังแกใส่ความเท็จ

ผมจะไม่ว่าอะไรคุณลุงในเรื่องนี้แต่ผมเห็นใจคุณลุงที่ตกเป็นเหยื่อของความเท็จ ของสื่อที่บิดเบือน และชราภาพที่ครอบงำ
คุณลุงก็เป็นนักเขียนที่มีคนอ่านพอสมควรต่อไป ขอให้คุณลุงได้เขียนข่าวอย่างรอบคอบกว่านี้
อย่าได้ทำแบบนี้กับผมและคนอื่นๆ อีกเลย

วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เปิดใจว่าที่ประธานสภานิสิตจุฬา

สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติเลือก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาลเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่ประชุมสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติเลือก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาลเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2560 เจ้าตัวลั่น จะเปลี่ยนพิธีถวายบังคม รัชกาลที่ 5 ใครไม่ชอบหมอบคลานเปิดพื้นที่ให้ยืนเคารพก็ได้ วันนี้ (4 พ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในโลกโซเชียลได้มีการพูดถึง นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2560 ด้วยคะแนนเสียง 27 เสียง จากองค์ประชุมทั้งหมด 36 คน

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รู้สึกมีความหวัง

ดีใจด้วยค่ะ
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ ได้ตำแหน่งประธานสภานิสิตฯ จากการลงคะแนนแบบลับ ได้คะแนน 27 คะแนน จาก คกก. จำนวน 36 ราย

วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ก่อนที่จะมาเป็นเพลง จิตร ภูมิศักดิ์



Joe Gordon

ก่อนที่จะมาเป็นเพลง จิตร ภูมิศักดิ์
John Barleycorn Must Die เป็นเพลงที่ Steve Winwood แต่งขึ้นเล่นกับวงร๊อคอังกฤษชื่อว่า Traffic ในปี พ.ศ. 2513 ลักษณะของเพลงเป็นเพลงพื้นบ้านที่ดัดแปลงมาจากบทกวีของชาวสก๊อต โดยใช้ชื่อคนเปรียบเทียบให้เห็นถึงชีวิตที่ทุกข์ยากลำบากของชาวนาคนหนึ่ง ที่ต่อสู้และถูกทำร้ายถึงความตายอย่างอเนจอนาถ ซึ่งไม่ต่างจากข้าวบาร์ลีย์ที่ถูกเก็บเกียว แล้วเอาไปหมักบ่มต้มเป็นเบียร์เป็นเหล้าให้คนดื่มแก้หนาว เพลงนี้ได้ติดอันดับบิลบอร์ดแต่ไม่ประสพความสำเร็จนักในอังกฤษ 

ในประเทศไทย หลังจากเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ได้มีศิลปินอิสระที่หันมาสนใจในการแสดงออกทางด้านดนตรีที่แวกออกจากแนวเดิม และได้เกิดแนวทางของดนตรีที่รับใช้สังคมที่เรียกกันว่า ดนตรีเพื่อชีวิต ไม่นานศิลปินเดี่ยวก็มารวมตัวกันเป็นวงคาราวาน และก็ได้ใช้ทำนองเพลงนี้ มาปรับเปลี่ยนให้เป็นภาษาไทยเข้ากันได้อย่างสวยงามคือเพลง จิตร ภูมิศักดิ์ ที่กลายเป็นเพลงอมตะของแนวเพลงเพื่อชีวิตจนถึงปัจจุบันนี้


วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560

'เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล' ชี้ พลเรือนต้องควบคุมกองทัพ มองการรักชาติไม่ได้มีรูปแบบเดียว


นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่าได้หนังสือรับรองจากรองอธิการบดีเพื่อผ่อนผันการเกณฑ์ทหารแล้ว โดยจะไปยื่นผ่อนผันวันที่ 4 เม.ย.นี้ 
เขายืนยันจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการบังคับเกณฑ์ทหารโดยมองว่าควรจะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการเลือกส่วนคนที่ไม่ต้องการเลือกก็ไม่ควรถูกบังคับ 
"พลเรือนต้องควบคุมกองทัพและความคิดสร้างสรรค์ต้องอยู่เหนือความคิดตามๆ กัน ไม่งั้นก็นำพาชาติไปล่มจม การเกณฑ์ทหารทำลายความคิดสร้างสรรค์ ไม่เหมาะสำหรับผมและอีกหลายๆ คน ควรจะเป็นทางเลือกมากกว่า"

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

"เนติวิทย์" ข้ามรุ่นชก "ม.จ.จุลเจิม"...เปิดศึกดราม่าจุฬาฯ




สวัสดีครับทุกคน
ท่ามกลางแดดร้อนแรงระอุ นิสิตบางคนหมดสติไป
ผมและเพื่อนรัฐศาสตร์ นิสิตจุฬาลงกรณ์ได้พูดคุยและถกเถียงกันเรื่องการถวายบังคม ในพิธีถวายสัตย์เข้าเป็นนิสิต ซึ่งเราต่างก็ประหลาดใจกันว่าเหตุไฉนการหมอบกราบดังกล่าวจึงยังได้รับการปฏิบัติมาอีก ทั้งที่ในหลวงรัชกาลที่5 ทรงประกาศยกเลิกธรรมเนียมเก่าดังกล่าวแล้ว เหตุไฉนจึงมาสิ่งที่พระองค์ทรงยกเลิกต่อหน้าพระบรมรูปของพระมหากษัตริย์ผู้ไม่ต้องการสิ่งดังกล่าว
ธรรมเนียมเป็นเรื่องไม่เสียหาย หากไม่มีหลักวิชาก็เป็นแค่การนำอย่างมืดบอด โดยพิธีดังกล่าวถ้าศึกษา ก็เพิ่งกลับมาไม่นานมานี้เอง

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ผมไม้ได้ทำเพื่อ"เท่ห์" นะครับเพ่ !!!..


เท่ห์ไปเลยครับเพ่ !!!..."เนติวิทย์" กับเพื่อน 2 คน ลุกออกจากพิธีถวายสัตย์นิสิตจุฬาฯ แถมโพสต์คลิปโชว์ แต่ดันลบไปแล้วพร้อมคำชี้แจงแบบนี้

สวัสดีครับทุกคน
ท่ามกลางแดดร้อนแรงระอุ นิสิตบางคนหมดสติไป
ผมและเพื่อนรัฐศาสตร์ นิสิตจุฬาลงกรณ์ได้พูดคุยและถกเถียงกันเรื่องการถวายบังคม ในพิธีถวายสัตย์เข้าเป็นนิสิต ซึ่งเราต่างก็ประหลาดใจกันว่าเหตุไฉนการหมอบกราบดังกล่าวจึงยังได้รับการปฏิบัติมาอีก ทั้งที่ในหลวงรัชกาลที่5 ทรงประกาศยกเลิกธรรมเนียมเก่าดังกล่าวแล้ว เหตุไฉนจึงมาสิ่งที่พระองค์ทรงยกเลิกต่อหน้าพระบรมรูปของพระมหากษัตริย์ผู้ไม่ต้องการสิ่งดังกล่าว
ธรรมเนียมเป็นเรื่องไม่เสียหาย หากไม่มีหลักวิชาก็เป็นแค่การนำอย่างมืดบอด โดยพิธีดังกล่าวถ้าศึกษา ก็เพิ่งกลับมาไม่นานมานี้เอง